10 อันดับ คลินิกฉีดฟิลเลอร์คางปรับรูปหน้า อัพเดตล่าสุดปี 2020
การปรับรูปหน้าด้วยการฉีด ฟิลเลอร์คาง สามารถทำให้ใบหน้าส่วนที่ขาดนั้นเติม และได้สัดส่วนมากขึ้น เพราะใบหน้าที่สมบูรณ์แบบจะต้องมีสัดส่วนที่เท่าๆกันทั้ง 3 ส่วน โดยการ ฉีดฟิลเลอร์คาง นั้น สามารถตอบโจทย์ในเรื่องนี้ได้ แบบที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่เจ็บตัว ไม่เสียเวลาพักฟื้น ถือว่าเป็นวิธีที่ปลอดภัยมากๆ วิธีหนึ่ง หากใครยังไม่แน่ใจว่าการฉีดฟิลเลอร์คางดีหรือไม่ และยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือก ฉีดฟิลเลอร์คาง ที่ไหนดี
สารบัญ
- ฉีดฟิลเลอร์คาง คืออะไร?
- ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์คาง
- ข้อควรระวังของการฉีดฟิลเลอร์คาง
- ฟิลเลอร์คาง VS เสริมคางด้วยซิลิโคน
- การเตรียมตัวก่อน-หลังการฟิลเลอร์คาง
- ฟิลเลอร์คาง อันตรายไหม
- ฟิลเลอร์คางอยู่ได้นานแค่ไหน
ฉีด ฟิลเลอร์คาง คืออะไร ?
การ ฉีดฟิลเลอร์คาง ช่วยปรับรูปหน้าให้ดูเรียวขึ้น คางยาวขึ้น เป็นอีกหนึ่งหัตถการ เสริมคางให้เรียวสวยที่ไม่ต้องผ่าตัด โดยใช้สารเติมเต็ม “ Hyaluronic Acid : HA” ที่มีคุณสมบัติไม่ทำให้เกิดการแพ้ มีความคงตัว และอยู่ในร่างกายได้เป็นเวลานาน การ ฉีดฟิลเลอร์คาง สามารถสลายไปเอง และยังช่วยสร้างความตึงให้กับผิวหนัง ดูอ่อนเยาว์
ข้อดีของการฉีด ฟิลเลอร์คาง
- เห็นความเปลี่ยนแปลงได้ทันที
การ ฉีดฟิลเลอร์คาง เป็นวิธีการปรับรูปหน้าบริเวณคางที่เห็นได้ทันทีหลังจากการฉีด เพราะเมื่อสารเติมเต็มถูกฉีดเข้าไปก็จะคงตัวอยู่ในบริเวณที่ฉีดทันที อีกทั้งในการฉีดก็ยังไม่ส่งผลข้างเคียง เช่น ทำให้เกิดอาการบวม และไม่ต้องรอเวลาเพื่อให้เข้าที่เหมือนการผ่าตัดศัลยกรรม - ไม่เจ็บตัว และไม่ต้องพักฟื้น
การ ฉีดฟิลเลอร์คาง เป็นเพียงการฉีดสารเติมเต็มเข้าสู่ร่างกาย ดังนั้นจึงเป็นวิธีปรับลักษณะของคางที่ไม่ต้องเจ็บตัว และไม่ต้องพักฟื้น เพียงแต่ต้องทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดเพื่อผลที่มีประสิทธิภาพ - ปลอดภัยสูง
สารเติมเต็มที่นำมาใช้ในการ ฉีดฟิลเลอร์คาง เป็นสารที่มีความปลอดภัยสูงและได้รับการรับรองทางการแพทย์ว่าสามารถใช้กับคนทั่วไปได้ อีกทั้งในการ ฉีดฟิลเลอร์คาง จะต้องเป็นแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการฉีดเป็นผู้ฉีดให้เท่านั้น จึงทำให้มั่นใจได้ว่าจะไม่มีอันตรายใด ๆ อย่างแน่นอน - สามารถปรับแต่งได้หากไม่พอใจ
เนื่องจาก ฉีดฟิลเลอร์คาง เป็นการฉีดสารเติมเต็มเข้าไปใต้ผิวหนังชั้นลึก ดังนั้นหากรู้สึกว่าไม่พอใจกับรูปร่างของคางหลังจากการ ฉีดสารฟิลเลอร์ ก็สามารถให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญปรับแต่งได้ทันที นอกจากนี้สารที่นำมาใช้ก็สามารถสลายไปได้ตามธรรมชาติ ทำให้ผู้เข้ารับบริการไม่ต้องกังวลว่ารูปลักษณ์ของคางจะเปลี่ยนไปอย่างถาวรจนไม่สามารถแก้ไขได้ - ค่าใช้จ่ายไม่สูง
หากเทียบกับการเสริมคางด้วยวิธีอื่น ๆ เช่น การผ่าตัดเสริมคาง หรือการผ่าตัดขากรรไกรแล้ว การ ฉีดฟิลเลอร์คาง ถือเป็นวิธีที่ค่าใช้จ่ายไม่สูงมากนัก ทำให้ผู้เข้ารับบริการไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายมากเกินไป
ข้อควรระวังของการฉีด ฟิลเลอร์คาง
การ ฉีดฟิลเลอร์คาง ไม่เหมาะกับผู้ที่มีคางสั้นมากๆ เนื่องจากฟิลเลอร์ไม่สามารถทำให้คางยาวขึ้น (เกิน 1 เซนติเมตร) กรณีที่ฉีดคางได้ยาวมากเกิน 1 เซนติเมตร และเป็นฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐานอาจทำให้เกิดคางผิดรูป ยาวแหลม ไม่เป็นธรรมชาติ รวมถึงอาจเกิดการย้อยลงของฟิลเลอร์เมื่อเวลาผ่านไป
นอกจากนี้การ ฉีดฟิลเลอร์คาง อยู่ได้ประมาณ 12-18 เดือนเท่านั้น ต่อการเข้ารับการฉีด 1 ครั้ง จึงจำเป็นต้องมีเติมฟิลเลอร์คางซ้ำ
การเติมฟิลเลอร์คางเป็นที่มาของค่าใช้จ่าย เมื่อเทียบกับการตัดสินใจผ่าตัดเสริมคาง (ในบางรายอาจมองว่าคุ้มค่าในระยะยาว ซึ่งก่อนการตัดสินใจทำหัตถการเกี่ยวกับคาง ควรให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญช่วยตรวจวิเคราะห์ว่า คนไข้เหมาะกับการเติมฟิลเลอร์คาง หรือการผ่าตัดเสริมคาง)
ฟิลเลอร์คาง VS เสริมคางด้วยซิลิโคน
• เสริมคางด้วยซิลิโคน
วิธีเสริมคางด้วยซิลิโคนนั้น เหมาะกับคนที่มีลักษณะของคางที่สั้นมากๆ เพราะ ซิลิโคนจะสามารถต่อคางออกมาให้ดูยาวขึ้นได้อย่างชัดเจน การฉีด ฟิลเลอร์คาง สามารถทำให้ยาวขึ้นได้เช่นกัน แต่เมื่อเทียบความยาวแล้วโดยเฉลี่ยอาจจะไม่เท่าวิธีการเสริมคางด้วยซิลิโคน
การเสริมด้วยซิลิโคนจะต้องมีการเปิดแผลที่ค่อนข้างกว้างหากเสริมด้วยซิลิโคนขายาว ในกรณีที่เสริมคาง โดยการเลือกใช้เป็นซิลิโคนขาสั้นนั้นจะต้องใช้ความเชี่ยวชาญของแพทย์ที่ทำการเสริมคาง เพราะต้องมีการเหลาซิลิโคนให้รับกับกรามของเรา ไม่เช่นนั้นแล้วการเสริมคางจะยิ่งส่งผลให้เกิดร่องพับมุมปาก ร่องพับคางมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้แล้ว การเสริมคาง ที่ไม่ดีไม่ได้สัดส่วน จะส่งผลทำให้ดูแก้มห้อยมากขึ้น แทนที่จะหน้าเรียวสวย และกลับยิ่งเน้นในจุดที่เป็นร่องน้ำหมากอีกด้วย ทำให้ใบหน้าดูแก่ มีอายุมากยิ่งขึ้น หลังการเสริมคางด้วยซิลิโคน เมื่อต้องการเปลี่ยนแปลงแก้ไขต้องทำการผ่าตัด เพื่อปรับรูปคางเท่านั้น
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ฟิลเลอร์คาง VS ผ่าตัดคาง
• ฉีดฟิลเลอร์คาง
การฉีด ฟิลเลอร์คาง ตัวฟิลเลอร์เองนั้นเป็นของเหลวเนื้อเจล ใสไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ทั่วไปสามารถทำให้คางยาวขึ้น โดยประมาณ 1 เซนติเมตร การฉีด ฟิลเลอร์คาง เหมาะสำหรับใช้เติม แก้ไข และปรับรูปคางในคนที่คางสั้น หน้าเหลี่ยม คางเบี้ยว คางย้อย คางบุ๋ม คางไม่เท่ากัน หรือใช้ปรับรูปหน้า ให้ใบหน้าดูเรียวสวยมากขึ้น
ฟิลเลอร์แท้ กลุ่มไฮยารูลอนิกแอซิด สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ มีอายุอยู่ที่ประมาณ 18-24 เดือน ต่างกันเล็กน้อยในแต่ละบุคคล การฉีดฟิลเลอร์ นั้นส่วนมากจะไม่มีอาการบวมช้ำหลังทำการรักษา หรือ ไม่ต้องพักฟื้นใดๆ ผู้เข้ารับการฉีดฟิลเลอร์สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ มีเพียงรอยเข็มเป็นจุดเล็กๆเท่านั้น และการดูแลหลังการ ฉีดฟิลเลอร์คาง ก็ง่ายกว่าการผ่าตัดเสริมด้วยซิลิโคนคางอย่างมาก
การเตรียมตัวก่อน หลังการฟิลเลอร์คาง
• การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์คาง
- ควรงดอาหารเสริมหรือยาบางชนิด เช่น ยาแอสไพริน และวิตามินอี เพราะจะทำให้เกิดรอยช้ำได้ง่าย
- หากต้องทำการเลเซอร์ในบริเวณที่ต้องการฉีดรักษาฟิลเลอร์ ควรทำก่อนอย่างน้อย 3 วัน เพราะหลังจากฉีด ฟิลเลอร์คาง แนะนำให้งดการเลเซอร์ในบริเวณเดียวกันเป็นเวลา 2 สัปดาห์
- งดการดื่มแอลกฮอล์ และ กิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีดเพิ่มขึ้น เช่น การเข้าซาวน่า ออกกำลังกาย cardio เป็นเวลา 24 ชม.ก่อนทำการฉีด ฟิลเลอร์คาง
• หลังฉีดฟิลเลอร์คางปฎิบัติตัวอย่างไร
- หลีกเลี่ยงการนอน หลังการฉีด ฟิลเลอร์คาง 3-4 ชั่วโมง และช่วง 12 ชั่วโมงแรกหลังการรักษา หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าหรือใช้ครีมบำรุงผิวทาตำแหน่งที่มีรอยเข็ม ทุกชนิด
- ห้ามออกกำลังกายภายใน 24 ชั่วโมงแรก หรือสัมผัสความร้อนด้วยวิธีต่างๆ รวมทั้งห้ามขัดถูบริเวณใบหน้าแรงๆ ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะตำแหน่งที่ทำการฉีดฟิลเลอร์
- ควรดื่มน้ำสะอาดมากๆ ประมาณวันละ 12 แก้ว เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและให้ฟิลเลอร์ที่ฉีดไปอุ้มน้ำและฟูขึ้น
ฟิลเลอร์คาง อันตรายไหม
การฉีด ฟิลเลอร์คาง คือการฉีดสารเติมเต็มกลุ่มไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) ที่ได้รับการรับรองว่าปลอดภัยเพื่อใช้ในการฉีดฟิลเลอร์คาง ทำให้ผิวเกิดความชุ่มชื้น รูปคางอวบอิ่ม และช่วยปรับรูปของใบหน้าให้เรียวสวยอันตรายจากการฉีดฟิลเลอร์คาง เกิดขึ้นได้น้อยมาก จะเกิดได้จากการใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐานเท่านั้น หากว่าฟิลเลอร์ที่ใช้ได้รับการรับรองจาก อย. และรับบริการจากสถานบริการที่มีคุณภาพ การฉีดฟิลเลอร์คางก็จะไม่มีอันตรายใดๆ ทั้งสิ้น
ฟิลเลอร์คางอยู่ได้นานแค่ไหน
ระยะเวลาของการฉีด ฟิลเลอร์คาง นั้น จะมีอายุอยู่ใต้ชั้นผิว ตามชนิดของรุ่นตัวยาที่ฉีดไป ซึ่งแตกต่างกันที่เทคโนโลยีการผลิตฟิลเลอร์ที่แต่ละบริษัทยาคิดค้นและเลือกใช้ ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ จะมีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 6-24 เดือน นอกจากรุ่นของฟิลเลอร์ที่ใช้รักษานี้แล้ว
ความเข้มข้นของตัวไฮยาลูรอนิกก็เป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการสลาย หรือคงอยู่ของยาใต้ชั้นผิวเช่นกัน นอกจากนี้การดูแลและการปฏิบัติตัว หลังการฉีดฟิลเลอร์ ก็มีผลกับอายุของฟิลเลอร์ เช่นกัน เพื่อไม่ให้ฟิลเลอร์ที่ฉีดนั้นสลายเร็วไปก่อนเวลา จึงควรดูแลตัวเองและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ที่ทำการรักษาอย่างเคร่งครัด เพื่อผลลัพธ์ที่ยาวนาน