ใครๆก็อยากมีใบหน้าเรียวยาวกันทั้งนั้น อีกหนึ่งทางเลือกของสาวสาวหน้ากลมหรือหน้ารูปเหลี่ยม คือการปรับรูปบริเวณคางเพื่อดึงมิติของใบหน้าให้ดูยาวมากยิ่งขึ้น หรือถ้าหากสาวสาวคนไหนรู้สึกว่าใบหน้าดูไร้มิติ หน้าไม่พุ่ง การแก้ไขรูปคางด้วย ฟิลเลอร์คาง vs ผ่าตัดคาง อาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการปรับรูปหน้าให้ดูมีมิติสวย และมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น
สารบัญ ฟิลเลอร์คาง vs ผ่าตัดคาง
ฟิลเลอร์คาง vs ผ่าตัดคาง แตกต่างกันอย่างไร?
การฉีดฟิลเลอร์คาง มีข้อดีคือไม่ต้องพักฟื้น เห็นผลรวดเร็ว ไม่มีความเสี่ยงจากการวางยาสลบ สามารถปรับแก้ไขได้ง่าย สลายออกได้ แต่อยู่ได้ไม่ถาวรและไม่สามารถทำให้คางยาวขึ้นได้มากเกินกว่า 1 เซนติเมตร เหมาะกับคนที่มีฐานคางเดิมอยู่แล้ว ต้องการเสริมเพียงเล็กน้อย หากต้องการผ่าตัดเสริมคาง ควรอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด เพราะว่ามีความเสี่ยงมากกว่า ข้อดีคืออยู่ได้ถาวร แต่หลังผ่าตัดต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน มีแผลที่ต้องดูแล ถ้าทำมาแล้วไม่ชอบจะปรับแก้ไขรูปทรงได้ยาก ควรทำกับแพทย์ที่ฝีมือดี มีประสบการณ์สูง จึงจะได้รูปทรงตามต้องการและดูเป็นธรรมชาติ
การฟิลเลอร์คาง
สำหรับการปรับรูปคางโดยไม่ต้องกระทำการผ่าตัด นั่นก็คือการฉีดฟิลเลอร์คางนั่นเอง เพราะฟิลเลอร์เป็นที่นิยมในการฉีดมากขึ้น พบว่ามีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น มีของแท้ให้เลือกหลากหลายมากขึ้น และไม่ต้องเจอกับระยะในการพักฟื้นหลังการทำศัลยกรรม จึงเป็นที่นิยมของสาวสาวที่อยากสวยภายในพริบตา ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์คางที่เหนือกว่าการทำศัลยกรรมคาง นั่นก็คือ เรื่องของการบวมหรือระยะพักฟื้นนั่นเอง
เพราะการฉีดฟิลเลอร์นั้นมีแค่แผลรูเข็มเล็กๆ ซึ่งเผลอๆแล้วอาจจะเล็กกว่าแผลที่เรากดสิวเองด้วยซ้ำ เรียกได้ว่าใบหน้าดูยาวขึ้นแบบที่ไม่มีใครรู้ว่าเราไปทำอะไรมา ข้อดีอีกประการหนึ่งของการฉีดฟิลเลอร์แทนการทำศัลยกรรมคาง นั่นคือ การฉีดฟิลเลอร์สามารถปรับมุมได้ทั้ง 360 องศา ไม่ว่าจะด้านหน้าคางให้มีมิติพุ่งออกมา โดยไม่สนว่าความยืดหยุ่นของเนื้อเรานั้นมีมากน้อยแค่ไหน เป็นการวางซิลิโคนสำหรับการทำศัลยกรรม
ปัจจัยหนึ่งในการเลือกความยาวของคางหรือมิติของคาง จะขึ้นอยู่กับความยืดหยุ่นของเนื้อคางเดิมเราด้วย ดังนั้นยิ่งใครถ้ามีเนื้อคางน้อย อาจจะเหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์มากกว่าการทำศัลยกรรมเพราะไม่มีข้อจำกัดในเรื่องของการวางซิลิโคน สำหรับข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์นั้นก็คือฟิลเลอร์ไม่ได้อยู่กับเราตลอดชีวิตเหมือนซิลิโคน จะมีช่วงเวลาที่ฟิลเลอร์สลายหายไป และเรากลับมาเป็นคนหน้ากลมเหมือนเดิม ดังนั้นในช่วงระยะเวลาหนึ่งถึงสองปีอาจจะต้องทำการฉีดฟิลเลอร์ซ้ำอีกครั้ง เพื่อให้ได้รูปคางตามเดิม แต่นั่นก็เปรียบเสมือนข้อดีในตัวเพราะแปลว่าไม่มีสารตกค้างอยู่ในร่างกายเหลืออยู่เลย ใครที่ไม่อยากได้สารแปลกปลอมการฉีดฟิลเลอร์ดูเหมือนจะเป็นการกระทำที่ปลอดภัยกว่า
การผ่าตัดคาง
ปัจจุบันนี้การแก้ไขรูปหน้าในส่วนของคางนั้นหลักๆจะมีการแก้ไขอยู่ 2 แบบด้วยกัน คือ วิธีการผ่าตัดและการแก้ไขโดยการไม่ผ่าตัด การแก้ไขด้วยการผ่าตัดเสริมคางหรือการทำศัลยกรรมคางนี้ จะมีข้อเสียเปรียบตรงที่คนไข้ที่ทำการรักษาจะต้องใช้ระยะเวลามากกว่าในการพักฟื้น หรืออาจจะมีรอยช้ำปรากฏให้เห็นหลังการทำศัลยกรรมอยู่ช่วงหนึ่งได้ ดังนั้นการทำศัลยกรรมจึงไม่เหมาะกับผู้ที่ไม่มีระยะพักฟื้น ไม่อยากให้ผู้อื่นรู้
หรือถ้าเป็นคนที่มีแผลเป็นง่ายการทำศัลยกรรมก็อาจจะเป็นที่มาของการเกิดแผลเป็นนูนหรือคีลอยด์ได้เช่นกัน ส่วนข้อดีของการทำศัลยกรรมคางนั้นก็คือ อยู่ได้ถาวร ถ้าไม่ได้ต้องการการแก้ไขรูปทรงใหม่การทำศัลยกรรมหนึ่งครั้ง ก็สามารถอยู่ได้ตลอดชีวิตเพราะสิ่งที่ใส่เข้าไปนั้นก็คือ ซิลิโคนแข็งนั่นเอง ไม่มีการไหล ไม่มีการเปลี่ยนรูป อยู่ในสถานะของแข็งตลอดเวลา แต่เหมือนจะเป็นข้อเสียในตัวเอง เพราะถ้าหากต้องการ การแก้ไขหลังจากทำศัลยกรรมไป จะต้องรับการทำศัลยกรรมซ้ำอีกครั้งเพื่อทำการแก้ไข ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องเจอกับระยะในการพักฟื้นรวมถึงโอกาสในการเกิดรอยแผลเป็นซ้ำอีกแผลด้วย
ทาง Thaitop ได้จัดอันคลินิกฉีดฟิลเลอร์คางที่ดีที่สุดไว้ 10 อันดับ มั่นใจได้ว่าจะได้รูปหน้าเรียวคางปังแบบไม่มีอะไรกั้น
>> 10 อันดับ คลินิกฉีดฟิลเลอร์คางปรับรูปหน้า อัพเดตล่าสุดปี 2020 <<
สรุป ฟิลเลอร์คาง vs ผ่าตัดคาง
สุดท้ายแล้ว ฟิลเลอร์คาง vs ผ่าตัดคาง ก็ขึ้นอยู่กับตนเองว่ายอมรับข้อดีข้อเสียของอะไรวิธีไหนได้มากกว่ากัน บางคนอาจจะมองภาพไม่ออกว่าถ้าใบหน้าเราดูยาวขึ้นแล้วจะเป็นแบบไหน ก็อาจจะเลือกปรับรูปด้วยการฉีดฟิลเลอร์ก่อน หลังจากนั้นถ้ามองเห็นภาพชัดเจนแล้วว่าการมีคางทำให้เราดูสวยขึ้นแตกต่างจากเดิมมาก ก็ค่อยเปลี่ยนไปทำศัลยกรรมภายหลังก็ได้ สาวสาวที่ชื่นชอบในการปรับรูปหน้าให้ดูวีเชฟมากยิ่งขึ้นบอกเลยว่าการแก้ไขจุดคางนี้ ถือเป็นตำแหน่งแรกที่ควรให้ความสนใจ แต่อย่าลืมเลือกฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐานและปลอดภัยด้วยนะคะ