เลเซอร์หลุมสิว (Laser Resurface)
การทำเลเซอร์รักษาหลุมสิวนั้นจะทำให้คอลลาเจนใต้ผิวถูกกระตุ้นให้เกิดการสร้างตัวขึ้นใหม่ เพื่อซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และ เกิดการเติมเต็มให้กับผิวหน้า ซึ่งแสงเลเซอร์มีความเข้มข้นกว่า IPL วิธีนี้สามารถใช้ได้กับการรักษาหลุมสิวทั้ง 3 ประเภทเลย การรักษาหลุมสิวด้วยวิธีนี้ ต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง เพราะผลข้างเคียง อาจทำให้เกิดรอยดำบริเวณผิวที่ทำการรักษาเป็นปี การทำเลเซอร์รักษาหลุมสิวนั้น มีด้วยกันหลายชนิด
- Cool touch laser เป็นการยิงแสงเลเซอร์ผ่านทะลุผิวชั้นแรกเข้าไปที่ผิวชั้นกลาง โดยทำให้น้ำในเซลล์ผิวเกิดความร้อน (เหมือนการต้มน้ำให้เดือด) ทำให้น้ำในผิวอุ่น เพื่อเป็นการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้หลุมสิวบนหน้าของเราตื้นขึ้นได้ วิธีนี้จะไม่รู้สึกเจ็บมากเพราะแพทย์โรคผิวหนังจะทายาชาก่อนยิงเลเซอร์ จะพบรอยแดงหลังทำ ปรากฏอยู่ประมาณ 1-2 ชั่วโมง วิธีนี้เหมาะกับหลุมสิวประเภท Rolling scar ทำติดต่อกัน 5-7 ครั้งจึงจะเห็นผล โดยการรักษาแต่ละครั้งแพทย์ผิวหนังจะนัดห่างกัน 2-4 สัปดาห์ การรักษาหลุมสิวด้วย Cool touch Laser เป็นวิธีที่ดีมากวิธีหนึ่ง เนื่องจากมีไม่มีผลข้างเคียง ไม่เกิดรอยแดง หรือแผลที่หน้า ทำให้สามารถใช้ชีวิตได้ปกติเหมือนเดิม
- Laser Fraxel เป็นเลเซอร์ชนิดนี้จะใช้คลื่นแสงในช่วงกลางที่มีอนุภาคขนาดเล็กมากยิงเข้าไปในระดับความลึกของชั้นผิวหนัง เพื่อเข้าไปกระตุ้นให้เซลล์ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ โดยคลื่นแสงชนิดนี้จะยิงเข้าไปสู่จุดหมาย เจาะรูเล็กๆใต้ผิวเรา ทำให้เซลล์ตายเกิดการสร้างเซลล์ใหม่ ทำให้รูขุมขนละเอียดขึ้น เกิดการสร้างผิวใหม่ที่แข็งแรงขึ้นและผลัดเซลล์ผิว ในขณะยิงเลเซอร์ค่อนข้างเจ็บ และหลังทำต้องหลีกเลี่ยงแสงแดด วิธีนี้จะทำประมาณ 4-5 ครั้ง โดยทำได้เดือนละ 1 ครั้ง เพื่อไม่ให้ผิวอักเสบเกินไป ค่อยข้างสะดวกและเหมาะกับการรักษาผิวหน้าของผู้ชายด้วย เพราะ วันรุ่งขึ้นก็สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติแล้ว หลังทำการรักษา 1 สัปดาห์ จะเริ่มรู้สึกได้ว่า ผิวหน้าเรียบเนียนขึ้น มีความใสขึ้น และสว่างขึ้น
- Laser fractional CO2 เลเซอร์ชนิดนี้มีความรุนแรงกว่า 2 ชนิดข้างต้น มีระบบ Scanner ทำให้มีความแม่นยำสูงในการปล่อยพลังงานลงไปได้ลึกถึงระดับที่ต้องการ สามารถเลือกบริเวณที่ทำการรักษาหลุมสิวได้เฉพาะเจาะจง เลเซอร์ชนิดนี้จะตัดพังผืดแนวดิ่ง การตัดพังผืดจะกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ การทำ Fractional CO2 จะไม่ทำให้เกิดการไหม้ของผิวชั้นบน เนื่องจากพื้นผิวหน้าจะมีความเรียบไม่สม่ำเสมอ บางบริเวณจะมีรอยนูนแต่บางบริเวณจะมีรอยยุบตัวของผิว ทำให้พลังงานเลเซอร์ลงลึกแตกต่างกันผลการรักษาจึงไม่ดีเท่าที่ควร แต่ระบบ Scanner จะแก้ปัญหาดังกล่าวได้ เพราะตัวสแกนจะจับระดึกความตื้นลึกของผิวบริเวณที่ทำการรักษา แล้วจึงสามารถกำหนดระดับความลึกของเลเซอร์ให้พอดีกับทั้งผิวนูนและผิวที่เป็นหลุม ผลการรักษาจึงได้ประสิทธิภาพมากและเห็นผลชัดเจน ไม่จำเป็นต้องฉีดยาชาเพราะไม่เจ็บปวดรุนแรง การรักษาจะทำประมาณ 4 ครั้ง ห่างกันเดือนละ 1 ครั้ง ระหว่างรักษาให้หลีกเลี่ยงแสงแดดเพราะผิวจะคล้ำดำ เป็นรอยได้ง่าย