10 อันดับฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คลินิกไหนดีที่สุด อัพเดตล่าสุดปี 2020
การ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อย หน้าดูโทรม อ่อนล้าเกิดเป็นร่องรอยใต้ตา กลับมาสดชื่น โดยผลลัพธ์การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตานั้น สามารถลดริ้วรอยและยังทำให้ใบหน้าอ่อนเยาว์อีกครั้ง การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตานั้นมีความเสี่ยงอยู่โดยตำแหน่งที่ฉีดนั้นมีเส้นเลือดที่ใกล้กับจอประสาทตา จึงควรฉีดกับแพทย์ที่มีความชำนาญเท่านั้น ใครที่กังวลในเรื่องของผลลัพธ์และผลข้างเคียงของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถหาคลินิกที่เป็นสุดยอดของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาได้ที่นี่
สารบัญ
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คืออะไร
- การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เหมาะกับใคร
- การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- ข้อดีและข้อเสียของการ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อันตรายหรือไม่
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ตาบอดจริงหรือ?
- ระวังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา กี่วันเข้าที่
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อยู่ได้นานแค่ไหน
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คืออะไร
การ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คือ การเติมสารเติมเต็มกลุ่ม “ไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid)” เข้าบริเวณใต้ตาที่มีปัญหาริ้วรอยหมองคล้ำ หรือ ใต้ตาที่กระดูกใต้ตายุบตัวลงทำให้เนื้อบริเวณใต้ตานั้นตาม ทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อย หน้าดูโทรม อ่อนล้าและดูมีอายุ ปัญหาเหล่านี้สามารถด้วยการฉีดสารเติมเต็ม เพื่อให้ใต้ตานั้นดูตื้นขึ้น และรอยคล้ำก็ดูจางลงด้วย ทำให้ใบหน้ากลับมาสดใส อ่อนเยาว์ ดูมีชีวิตชีวาอีกครั้ง
การ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เหมาะกับใคร
• คนที่มีเบ้าตาลึกคล้ำ ตาดูโหล
ในเคสที่มีเบ้าตาลึกคล้ำ ตาดูโหล จะทำให้ดูโทรม ดูแก่กว่าวัย ใบหน้าดูมีความเหนื่อยล้าอยู่ตลอดเวลา
• ร่องน้ำตาหรือร่องใต้ตาลึกชัด ลักษณะเป็นครึ่งวงกลมใต้ตา
ในเคสที่มีร่องน้ำตาหรือร่องใต้ตาลึกชัด จะทำให้บริเวณใต้ตาดูลึกคล้ำ ไม่สดใส และดูแก่กว่าวัย
• ผิวดูเหี่ยวย่นจากริ้วรอย ดูไม่สดใส
ในเคสที่มีริ้วรอยบรเวณใต้ตา ทำให้ดูเหมือนรอยเหี่ยวย่น ทำให้ผิวดูไม่เรียบเนียน
• ดำคล้ำจากอาการภูมิแพ้ หรือขยี้ตาจนติดเป็นนิสัย
ในเคสที่มีใต้ตาดำคล้ำ จากอาการภูมิแพ้ หรือขยี้ตาจนติดเป็นนิสัย ทำให้ผิวบริเวณรอบดวงตามีรอยย่น
การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
1.ควรงดอาหารเสริมหรือยาบางชนิด เช่น ยาแอสไพริน น้ำมันปลา และ วิตามินอี
2.หากต้องทำการเลเซอร์ในบริเวณที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์ ควรทำก่อนอย่างน้อย 3 วัน เพราะหลังจากฉีดฟิลเลอร์แนะนำให้งดการทำทรีทเม้นท์เป็นเวลา 2 สัปดาห์
3.งดการดื่มแอลกฮอล์ และ กิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด เช่น เข้าอบซาวน่า ออกกำลังกาย cardio เป็นเวลา 24 ชม.ก่อนทำการรักษา
ข้อห้าม หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ฟิลเลอร์เข้าที่เร็วขึ้นและรักษาผลลัพธ์ให้อยู่ได้นานขึ้น
1. หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อาจมีอาการบวม เขียวช้ำหรือคันได้เป็นปกติ ไม่ควรแตะ แกะ เกา ในบริเวณที่ทำ
2. อยู่ในที่อากาศเย็นและหลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิด การซาวน่า เลเซอร์ร้อน ตากแดด ออกกำลังกายหนักๆ ในช่วง 3 วันแรกหลังทำ
3. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาหารที่เผ็ดมากจนหน้าแดง อาหารหมักดอง อาหารดิบจากร้านที่ไม่สะอาด
4. งดสูบบุหรี่
5. พยายามอย่าขยับใบหน้าเยอะๆ ในช่วง 3 วันหลังทำ เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ผิดตำแหน่งได
6. 1 ชม.หลังทำ สามารถแกะพลาสเตอร์ออกได้
Tips : การดื่มน้ำเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น ควรดื่มน้ำให้เพียงพอ 1.5-2 ลิตร ต่อวัน
ปัญหาการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แล้วเป็นก้อนบวม เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ มาจาก
• เลือกฟิลเลอร์ไม่ถูกรุ่นไม่เหมาะกับบริเวณที่ฉีด
• ใช้เทคนิคการฉีดไม่ถูกต้อง
• ใช้ฟิลเลอร์ปลอมหรือฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน
• หมอที่ฉีดให้ไม่มีความชำนาญทางด้านการฉีดฟิลเลอร์
การแก้ไขต้องดูว่าเกิดจากสาเหตุอะไร ถ้าฉีดด้วยฟิลเลอร์แท้ HA (Hyaluronic Acid) สามารถใช้ตัวยาไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase:HYAL) ฉีดเพื่อสลายฟิลเลอร์ได้ แต่อย่างไรก็ดีควรที่จะตัดสินใจเลือกคลินิกให้ดีเสียก่อน เพื่อจะได้ผลลัพธ์ที่ดีโดยไม่ต้องมาแก้ไขกันภายหลัง
ข้อดีและข้อเสียของการ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นการแก้ปัญหาใต้ตาที่ดีที่สุด ได้ผลลัพธทันที และชัดเจนที่สุด ช่วยลดรอยเหี่ยวย่น ทำให้ใต้ตาดูอวบอิ่มสดใสมากขึ้นกว่าเดิม สามารถอยู่ได้ประมาณอย่างน้อย 6-8 เดือน หรือมากกว่า ขึ้นอยู่กับชนิดและรุ่นของฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ และยังเป็นสารที่สามารถสลายไปได้เองตามธรรมชาติ100% โดยไม่ทิ้งสารตกค้างที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
ข้อเสียจากการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา หากเลือกใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ผ่านมาตรฐานการรับรอง และเลือกฉีดกับแพทย์ที่มีความชำนาญทางด้านการฉีดฟิลเลอร์โดยเฉพาะ ก็สบายใจได้ในเรื่องของความปลอดภัย
แต่หากเป็นฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน ฟิลเลอร์ปลอม จะมีผลเสียในเรื่องของการสลายตัวของฟิลเลอร์ที่ไม่ 100% นั่นเอง และที่ร้ายแรงที่สุด การฉีดฟิลเลอร์บริเวณใต้ตามีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการตาบอดได้ เนื่องจากบริเวณใต้ตามีเส้นเลือดจำนวนมาก ดังนั้น การเลือกแพทย์ที่จะฉีดฟิลเลอร์ให้กับเรานั้น จึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อันตรายหรือไม่
การฉีดฟิลเลอร์นั้นถือว่าเป็นการปรับแก้ไขรูปใบหน้า ด้วยสารไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid) ถือว่าเป็นการรักษาที่ได้รับการยอมรับว่าปลอดภัย เจ็บน้อยและไม่ต้องเสียเวลาในการพักฟื้นเลย โดยปกติก็มีผลข้างเคียงพวกอาการบวมและรอยเข็มที่จะสามารถหายไปได้เองภายใน 2-3 วัน
อันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แล้วปลายเข็มนั้นได้ไปสะกิดถูกเส้นเลือดบริเวณใต้ตา เพราะ บริเวณรอบๆ ดวงตาของเรานั้นมีเส้นเลือดฝอยอยู่มาก อาจจะทำให้เกิดรอยเขียว ช้ำม่วงจากการฉีดฟิลเลอร์ได้ การฉีดฟิลเลอร์บริเวณใต้ตาจึงต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก และต้องเลือกใช้บริการกับแพทย์จริงที่สามารถตรวจสอบรายชื่อได้จากทางแพทยสภา เป็นแพทย์ที่มีความชำนาญทั้งด้านกายวิภาคของใบหน้า และด้านการฉีดฟิลเลอร์โดยเฉพาะ
นอกจากนี้ การฉีดฟิลเลอร์บริเวณใต้ตานั้นมีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการตาบอด ผิวหนังเน่าตาย หากฟิลเลอร์ไปอุดตันเส้นเลือดบริเวณรอบดวงตา ทำให้เลือดไหลไปหล่อเลี้ยงบริเวณดวงตาไม่สะดวก ทำให้เกิดอาการตาพร่ามัว ไปจนถึงอาการตาบอดได้
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ตาบอดจริงหรือ?
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาหากพลาดพลั้งเข้าเส้นเลือดที่เลี้ยงจอประสาทตา สามารถทำให้เกิดการตาบอดได้นั้น เป็นเรื่องจริง แต่การเกิดเหตุการณ์เช่นนั้น ไม่ได้เกิดได้ง่ายๆ ทีนี้แล้วเราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าเราไม่ใช่ผู้โชคร้ายจากการเสริมความงาม
>> อ่านเจาะลึกมากขึ้นได้ ที่นี่ <<
ต้องบอกก่อนว่าการฉีดฟิลเลอร์แล้วตาบอด เป็นอาการที่จะเกิดทันที! ย้ำอีกครั้งว่าปกติการเกิดตาบอดนั้นมักจะเกิดทันที ตามที่เคยมีการเก็บรายงานมาในต่างประเทศก็พบบ้างว่าเกิดขึ้นภายหลัง 2 ชั่วโมง นับจากฉีดฟิลเลอร์ แต่สำหรับเมืองไทยแล้วผู้ที่ตาบอดจากการฉีดฟิลเลอร์เกิดอาการทันทีขณะฉีดทุกราย
นั่นแปลว่า โอกาสที่หลังฉีดฟิลเลอร์ไปแล้วปกติดี มองเห็นชัดเจนเหมือนเดิม ก็แปลว่าไม่น่าเกิดการตาบอดกับคุณแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าพ้นจากการตาบอดแล้วในช่วงแรก จะไม่เจอกับผลข้างเคียงอื่นๆอีก เพราะหากเป็นอาการเนื้อตาย ติดเชื้อ อักเสบ กลุ่มอาการพวกนี้จะเกิดตามมาภายหลังได้เช่นกัน
สำหรับการป้องกันนั้นสำคัญที่สุด เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอาการตาบอด หรือมีปัญหาอื่นๆตามมาจากการฉีดฟิลเลอร์ นั่นคือ การศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์อย่างถูกต้อง ไม่เห็นแก่ราคาถูกหรือโปรโมชั่นโดยไม่ได้ตรวจสอบแพทย์ผู้ทำการรักษาว่าจะต้องเป็นแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ หรือคุณภาพของยา ว่าเป็นฟิลเลอร์แท้หรือไม่
ระวัง ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แล้วเป็นก้อน
ฟิลเลอร์เป็นสารเติมเต็มที่เลียนแบบจากธรรมชาติในร่างกายของเราเอง ซึ่งไม่เป็นอันตรายกับร่างกายของเราอยู่แล้ว สาเหตุที่จะทำให้การ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แล้วเป็นก้อน นั้น เป็นเพราะว่าเรารับการ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา กับแพทย์ไม่ได้มีประสบการณ์ หรือใช้ฟิลเลอร์ปลอม ซึ่งอาจมีปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วย ได้แก่
- เทคนิคและประสบการณ์การฉีดของแพทย์ที่ทำการฉีดฟิลเลอร์ไม่มากพอ
- ชนิดของฟิลเลอร์ที่จะใช้ฉีดไม่มีความเหมาะสมกับตำแหน่งบริเวณที่ฉีด
- ปริมาณที่ใช้ฉีดมากเกินไปไม่เหมาะสม
- ฟิลเลอร์ปลอม
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา กี่วันเข้าที่
ฟิลเลอร์จะเป็นหัตถการที่เห็นผลทันที แต่ผลลัพธ์หลังฉีดทันทีจะยังไม่เห็นเต็มที่ ซึ่งจะแสดงให้เห็นประมาณ 70-80% ของทั้งหมดเท่านั้น ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา กี่วันเห็นผล ควรดูผลลัพธ์ประมาณ 4-5 วัน เพราะฟิลเลอร์และกล้ามเนื้อบริเวณนั้นจะหายบวมและเข้าที่ โดยจะเห็นผลอย่างชัดเจนหลังจากผ่านไป ประมาณ 2-3 สัปดาห์
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อยู่ได้นานแค่ไหน
เนื่องจากฟิลเลอร์คือสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid ซึ่งเป็นสารประกอบของคอลลาเจนที่มีอยู่ภายในผิวหนังของเรา เมื่อถูกฉีดเข้ายังชั้นผิวบริเวณใต้ตาแล้ว จะสามารถสลายหายไปตามธรรมชาติ นอกจากรู้ว่า ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา กี่วันเห็นผล ก็ต้องรู้ด้วยว่าฟิลเลอร์ใต้ตาจะอยู่กับเราไปได้นานแค่ไหน โดยปกติฟิลเลอร์จะสลายภายใน 6 เดือน แต่หากดูแลรักษาตัวเอง หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำร้ายฟิลเลอร์ใต้ตา รวมถึงฟิลเลอร์สมัยใหม่ที่มีการพัฒนา ก็จะทำให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานถึง 1-2 ปี