fbpx

สาเหตุของการเกิดสิวที่หลัง

สาเหตุของการเกิดสิวที่หลัง

สิวปัญหาผิวหน้าที่รักษากว่าจะหายดีใช้เวลายาวนาน สิวที่ใบหน้าว่ารักษายากแล้ว สิวที่หลังนั้นยิ่งดุแลรักษายากขึ้นไปอีก อีกทั้งสิวที่หลังยังทำลายความมั่นใจ เวลาที่จะสวมใส่เสื้อผ้าที่จำเป็นจะต้องเปิดหลังอีกด้วย ตามมาดูกันว่า สิวที่หลังนั้นเกิดจากสาเหตุใด แล้วสามารถเป็นสิวประเภทไหนได้บ้าง

สิวที่หลังเกิดจากอะไร ?

ทุกคนมีต่อมน้ำมันภายใต้รูขุมขน ผลิตน้ำมันที่เรียกว่าซีบัม (Sebum) ออกมาเพื่อสร้างความชุ่มชื้นให้กับเส้นผมและผิวหนัง หากน้ำมันและเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วไปอุดตันรูขุมขนก็จะทำให้เกิดสิว ทำให้มีอาการแดง บวมหรือเป็นหนอง สิวอาจเกิดจากการที่ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีส่วนผสมหลักเป็นน้ำมัน หรืออาจเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ เช่น

สิวที่หลังเกิดจากฮอร์โมนเพศ

  • ฮอร์โมน เพราะฮอร์โมนมีการเปลี่ยน สิวจึงมักปรากฏในช่วงวัยรุ่นเป็นเรื่องปกติหรือผู้หญิงที่อยู่ในช่วงการมีประจำเดือนหรือตั้งครรภ์
  • กรรมพันธุ์ ปัญหาเรื่องสิวที่เกิดขึ้นอาจส่งผ่านจากครอบครัวได้ เช่น หนึ่งในสมาชิกในครอบครัวเคยประสบกับสิวระดับรุนแรงมาก่อน
  • เหงื่อ เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดสิวได้ หากใส่เสื้อที่คับหรือพอดีตัวเกินไป เมื่อเหงื่อออกในเสื้อ อาจทำให้สิวรุนแรงขึ้นได้
  • อาหาร มีผลวิจัยยืนยันว่าการบริโภคคาร์โบไฮเดรตเช่นขนมปังขาวหรือมันฝรั่งทอดอาจทำให้เป็นสิวได้ เพราะเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว
  • ยา ผลข้างเคียงจากยา เช่น ยารักษาอาการซึมเศร้า อาจทำให้เกิดสิวได้
  • ความเครียด นับเป็นปัจจัยที่มีส่วนทำให้เกิดสิว แต่ไม่ใช่สาเหตุหลักที่ส่งผลกระทบโดยตรง

ชนิดของสิวที่หลัง

สิวที่หลัง มีหลายชนิด เกิดขึ้นจากการอักเสบหรือการอุดตัน การสังเกตถึงชนิดของ สิวที่หลัง สามารถช่วยให้ทำการรักษาได้อย่างเหมาะสม สิวที่หลัง มีชนิดต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

1. สิวที่หลัง ชนิดที่ไม่อักเสบ

สอวที่หลัง เกิดจากอะไร

 

  • สิวอุดตันหรือสิวหัวขาว (Whiteheads, Closed Comedone) เกิดจากหัวสิวที่อุดตันอยู่ในรูขุมขนภายใต้ผิวหนังเจริญเป็นหัวสิวสีขาว
  • สิวหัวดำ(Blackheads, Open comedone) เป็นสิวที่เกิดจากการอุดตันรูขุมขนที่เปิดอยู่บริเวณผิวหนัง หัวสิวสีดำไม่ได้เกิดจากสิ่งสกปรกไปอุดตันรูขุมขน แต่เกิดจากปฏิกิริยาของไขมันและอากาศ

2. สิวที่หลัง ชนิดที่มีการอักเสบ มีรอยแดง

  • สิวอักเสบแบบตุ่มนูนแดง (Papules) เป็นสิวที่มีสีชมพูขนาดเล็ก เกิดจากการอักเสบของสิวอุดตัน เป็นสิวชนิดที่ไวต่อการสัมผัส อาจติดเชื้อรุนแรงขึ้นหรือเป็นแผลเป็นได้หากไปดึงหรือบีบ
  • สิวอักเสบแบบหัวหนอง (Pustule) เป็นสิวอักเสบชนิดหนึ่ง อาจมีหัวสิวเป็นหนองสีขาวหรือสีเหลืองที่เกิดจากการรวมตัวของสิวหัวขาวและอาการแดงบริเวณรอบ ๆ หัวสิว ไม่ควรดึงหรือบีบเพราะอาจทำให้เป็นจุดด่างดำหรือแผลเป็นได้
  • สิวอักเสบแดงแบบก้อนลึก (Nodules) เป็นสิวที่เติบโตอยู่ภายใต้ผิวหนัง มีขนาดใหญ่ แข็ง อักเสบ และอาจมีอาการเจ็บหรือปวด
  • สิวหัวช้างหรือสิวซีสต์ (Cyst) เป็นสิวที่มีขนาดใหญ่ เป็นหนอง มีอาการเจ็บหรือปวดร่วมด้วย อาจก่อให้เกิดแผลเป็น สิวหัวช้างมักเป็นสิวระดับรุนแรง

สิวซีสต์ที่หลัง

สรุป

ปัญหา สิวที่หลัง เป็นปัญหาที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน จะมีสิวที่หลังมากหรือน้อยนั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายข้อ อาจจะมาจากพันธุกรรม ฮอร์โมน เฉพาะบุคคล หรือ เกิดจากอาการแพ้ผิวหนัง แพ้เหงื่อ แพ้ฝุ่นละออง แต่ก็อาจเกิดจากการถูกกระตุ้นด้วยอาหาร ยาและ ความเครียด ก็นับว่าเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวที่หลังได้โดยตรงเช่นกัน