ผิวหน้าที่อ่อนเยาว์เหมือนสมัยเด็กๆ ใบหน้ามีความยืดหยุ่นกระชับตึงเรียบเนียน และไร้ริ้วรอย คงเป็นความไฝ่ฝันของสาวๆหลายๆคน แต่ด้วยวันเวลาที่ผ่านไปทำให้ความกระชับนั้นหายไป ใบหน้าหย่อนคล้อย โดยเริ่มมีริ้วรอยตื้นๆ เกิดขึ้นก่อนหากปล่อยทิ้งไว้ก็จะพัฒนาเป็นริ้วรอยที่มีขนาดใหญ่และลึกขึ้นจนสังเกตได้
สาเหตุมีทั้งปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก ปัจจัยภายในเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติและไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ได้แก่การไหลเวียนของโลหิต เมื่ออายุมากขึ้นระบบไหลเวียนของโลหิตที่จะนำสารอาหารและออกซิเจนไปเลี้ยงเซลล์ผิวเริ่มทำงานช้าลง สำหรับปัจจัยภายนอกเช่น แสงแดดและมลภาวะบุหรี่ การรับประทานอาหาร การไม่ใส่ใจดูแลผิว
จึงทำให้การ ยกกระชับ ผิวหน้าแบบเร่งด่วนด้วยเทคโนโลยีทางความงามต่างๆ ได้รับความนิยมอย่างมาก
- การยกกระชับด้วยเลเซอร์ยกกระชับ
- การยกกระชับด้วยคลื่นวิทยุเทคโนโลยีเทอร์มาจ
- คุณสมบัติของโบท็อกซ์
- การยกกระชับใบหน้าและลำคอด้วยการฉีดโบท็อกซ์
- การยกกระชับใบหน้าด้วยการฉีดสารเติมเต็มฟิลเลอร์
- การยกกระชับใบหน้าด้วยไหมละลาย PDO
การยกกระชับด้วยเลเซอร์ยกกระชับ
การ ยกกระชับ ด้วยเลเซอร์ ยกกระชับ (Tightening Laser) : ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนช่วยให้ริ้วรอยตื้นๆ ลดลงรูขุมขนกระชับขึ้นช่วยให้ผิวหน้ากระชับและลดการหย่อนคล้อย
• ข้อดี ไม่เจ็บ ไม่ต้องพักฟื้น ราคาในการรักษาไม่สูงมากเมื่อเทียบกับวิธีอื่น
• ข้อเสีย ผลลัพธ์คงอยู่ไม่นานต้องทำต่อเนื่องหลายครั้งจึงจะเห็นผลชัดเจน
การยกกระชับด้วยคลื่นวิทยุเทคโนโลยีเทอร์มาจ
การ ยกกระชับ ด้วยคลื่นวิทยุเทคโนโลยีเทอร์มาจ (Thermage:Monopolar Radio Frequency): เป็นการรักษาโดยส่งผ่านคลื่นวิทยุและความร้อนลงไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวหนังชั้นลึกทำให้ผิวหนังแข็งแรงและยืดหยุ่นดีขึ้นทำให้ผิว ยกกระชับ ความหย่อนคล้อยและริ้วรอยลดลง
• ข้อดี หลังทำการรักษาเพียงครั้งเดียว จะเห็นผลทันทีและเห็นผลมากขึ้นเมื่อผ่านไป 1-2 เดือน และผลลัพธ์คงอยู่นาน 1-2 ปี
• ข้อเสีย รู้สึกเจ็บขณะที่ทำ ราคาค่อนข้างสูง
การยกกระชับด้วยเทคโนโลยีเครื่องโฟกัสอัลตราซาวน์อัลเทอรา
การ ยกกระชับ ด้วยเทคโนโลยีเครื่องโฟกัสอัลตราซาวน์อัลเทอรา (Ultherapy System) : เป็นการรักษาโดยส่งผ่านพลังงานคลื่นเสียงที่มีคลื่นความถี่สูง เป็นการยกกระชับแบบเฉพาะเจาะจงลงลึกถึงชั้นพังผืดกล้ามเนื้อ SMAS และชั้นคอลลาเจน
• ข้อดี พลังงานลงลึกได้มากกว่า Thermage หลังทำการรักษาเพียงครั้งเดียว จะรู้สึกว่าผิวยกกระชับในทันทีและเห็นผลมากขึ้นเมื่อผ่านไป 1-2 เดือน และผลลัพธ์คงอยู่นาน 1-2 ปี
• ข้อเสีย รู้สึกเจ็บขณะที่ทำ ราคาค่อนข้างสูง
การยกกระชับใบหน้าและลำคอด้วยการฉีดโบท็อกซ์
การ ยกกระชับ ใบหน้าและลำคอด้วยการฉีดโบท็อกซ์ (Nefertiti Lifting): โบท็อกซ์จะไปยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อที่ดึงหน้าให้หย่อนคล้อยส่งผลให้ใบหน้าดู ยกกระชับ อ่อนเยาว์ขึ้นทำให้รูปหน้าขอบหน้าชัดเจนสวยงามแลดูเรียวลง
• ข้อดี เห็นผลที่ 1-2 สัปดาห์หลังฉีด ราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับวิธีอื่นๆ
• ข้อเสีย ผลการรักษาจะอยู่ได้ไม่นานนักประมาณ 4-6 เดือนหลังการฉีด 1 ครั้ง
การยกกระชับใบหน้าด้วยการฉีดสารเติมเต็มฟิลเลอร์
การ ยกกระชับ ใบหน้าด้วยการฉีดสารเติมเต็มฟิลเลอร์ (Dermal Filler) : การเลือกเติมฟิลเลอร์ในกลุ่มไฮยาลูโรนิคเอสิดซึ่งนับว่ามีความปลอดภัยสูงสามารถช่วยเพิ่มปริมาตรของผิวให้เติมเต็มลดปัญหาร่องลึก เช่น ร่องแก้มและร่องใต้ตาซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวหน้าแลดูมีอายุ
• ข้อดี การฉีดฟิลเลอร์ด้วยสารไฮยาลูโรนิคเอสิดเพียง 1 ครั้งจะเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีและคงอยู่นานประมาณ 1 ปี โดยไม่ต้องพักฟื้น
• ข้อเสีย อาจพบรอยเข็มหรือรอยเขียวช้ำจากการฉีดได้
การยกกระชับใบหน้าด้วยไหมละลาย PDO
การ ยกกระชับ ใบหน้าด้วยไหมละลาย PDO (Thread Lifting) : นำมาใช้รักษาความเหี่ยวย่นและหย่อนคล้อยใต้ผิวหนังโดยหลังการร้อยไหม ไหมจะกระตุ้นการหดรัดตัวและกระตุ้นการสร้างเส้นใยคอลลาเจนใต้ผิวหนังทำให้เกิดการ ยกกระชับของผิวหนัง ใบหน้าจึงดูเต่งตึงขึ้นนั่นเอง
• ข้อดี ไหมจะละลายสลายตัวหมดได้เองภายในระยะเวลา6-8เดือน และผลการ ยกกระชับ คงอยู่นานประมาณ 1 ปี
• ข้อเสีย อาจพบอาการเจ็บ บวม หรือช้ำบริเวณที่ทำการร้อยไหมได้
สรุป วิธีการ ยกกระชับใบหน้า ทั้งหมดนี้ คือวิธีที่ได้รับความนิยมสูงในปัจจุบัน ส่วนวิธีไหนดีที่สุดนั้น ควรต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับปัญหาและสภาพผิวของแต่ละบุคคล เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ชัดเจน ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพสูงสุด